วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

วิธีการเลือกสุนัข


1.สุนัขต้องร่าเริง ดูกระฉับกระเฉง ชอบเล่น ไม่อยู่นิ่ง ไม่แสดงกิริยาก้าวร้าว หรือตื่นตกใจเกินเหตุ

2.มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง มีอายุสมขนาดของตัวที่ควรจะเป็นไหม ไม่ใช่ตัวเล็กหรือใหญ่เกินไป ดู   สมส่วน มีชีวิตชีวา ไม่หงอยเหงาเศร้าซึม ท่าทางการเดินหรือวิ่งเป็นปกติ ขาหน้าต้องตรง ขาหลังต้องไม่ กางออกเหมือนขาเป็ดหรือขาวัว นิ้วเท้าหน้าหลังจะต้องชี้ไปข้างหน้า ถ้าลูกสุนัขตัวนั้นเดินแล้วขากาง เหมือนเป็ด ย่อมบ่งบอกว่าอนาคตอาจพิการได้ ขาแข็งแรงมีกล้ามเนื้อ ขาใหญ่ ลำตัวสั่น หางจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สูงจนเกินไป เมื่อยกลูกสุนัขขึ้น โดยใช้สองมือประคองที่ขาหนีบหน้าของสุนัขเป็นปกติดีไม่มีอาการใดๆที่แสดงว่าเจ็บป่วย 

3.เปิดดูภายในช่องหู ควรจะแห้ง สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น ปราศจากก้อนแข็งๆ รอยแผล และสิ่งสกปรก จมูกเย็น ชื้น (ถ้าแห้งแปลว่าไม่สบาย) ไม่มีน้ำมูก

4.เปิดปากสำรวจลิ้น เหงือก และฟัน โดยลิ้นและเหงือกควรมีสีชมพู และเขี้ยวควรอยู่ตำแหน่งที่เหมาะสม

5.ดวงตาต้องสดใสเป็นประกาย สว่าง ไม่ขุ่นมัว สะอาด และปราศจากขี้ตาและน้ำตา สุนัขควรลืมตาได้เป็นปกติ ไม่มีอาการกระพริบตาบ่อยๆ ควรหลีกเลี่ยงสุนัขที่ใช้อุ้งเท้าแคะตาบ่อยๆ

6.ขนเป็นเงา นุ่ม ใช้ฝ่ามือลูบขนสุนัขให้ทั่ว เพื่อสำรวจผิวหนัง รอยแผลเป็น ฝุ่นดำๆ ซึ่งเป็นไข่ของเห็บหรือหมัด ให้ดูด้วยว่าขณะลูบ สุนัขแสดงอาการเจ็บปวดหรือไม่

7.ดูใต้หางของสุนัขว่า ก้นปราศจากรอยเปื้อนของอุจจาระ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสุนัขกำลังท้องเสีย

8.สุนัขไม่ไอหรือแสดงอาการอื่นๆ ที่ผิดปกติ  เช่น ท้องไม่โตหรือป่องเกินไป เพราะอาจมีพยาธิ

9.ส่วนเรื่องของสี ในการดูลูกสุนัขนั้นไม่ใช่ว่าจะเข้มหรืออ่อนเพียงอย่างเดียว ควรดูตำแหน่งของสีหรือจุดแต้มสีด้วยว่าออกโทนเดียวหรือเปล่า สีเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม สุนัขบางตัว รูปร่างทุกอย่างสวยหมด แต่ตำแหน่งของสีผิดเพี้ยนไป ก็จะดูไม่สดใสเท่าไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น